รักษาฝ้าด้วยวิธีธรรมชาติกันดีกว่า
ปัญหาหนึ่งเกี่ยวกับความสวย ความงามที่สำคัญนั่นก็คือปัญหาการเกิดฝ้าบนผิวหน้าของเรานั่นเองเมื่อเกิดแล้วทำให้ดูไม่สวยงาม บางคนอาจเกิดความไม่มั่นใจ ฝ้านั้นเกิดจากเม็ดสีที่เราเรียกว่า เมลานิน (Melanin pigment )นั้นมีมากเกินไป และทำงานผิดปกติ เมื่อผิวหนังได้รับ UV จากแสงแดดเป็นเวลานานทำให้เกิดรอยน้ำตาลเข้ม หรือสีเทาขึ้น ฝ้าพบมากบริเวณแก้ม ริมฝีปาก หน้าผาก นอกจากแสงแดดแล้วยังมีสาเหตุอื่นที่สามารถกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้ด้วยเช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจน โปรเจสเตอโรนในร่างกาย ยาบางชนิดเช่นยาคุมกำเนิด ความเครียดและการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
การป้องกันการเกิดฝ้านั้น สำคัญที่สุดคือการหลีกเลี่ยงจากแสงแดด หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรแต่งกายให้มิดชิดหรือทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันรังสี UV โดยครีมกันแดดควรจะ มี SPF มากกว่า 30 ขึ้นไป และต้องเป็น PA + + + ด้วยจึงจะป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลีกเลี่ยงยาที่ทำให้เกิดความเสี่ยงของการเกิดฝ้า เช่น ยาคุมกำเนิด ควรใช้เครื่องสำอางชนิดที่ไม่แพ้ และหลีกเลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมของน้ำหอมต่าง ๆ
สูตรธรรมชาติสำหรับดูแลรักษาผิวพรรณ เพื่อให้ผิวพรรณสดใส ปราศจากฝ้า แนะนำดังนี้นะคะ
1. สำหรับผิวมัน ให้ใช้ ขมิ้น ½ ช้อนชา น้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนชา วุ้นว่านหางจระเข้ปั่น 1 ช้อนโต๊ะผสมทั้งหมดให้เข้ากัน พอกหน้าเว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น กระชับผิวหน้าด้วยน้ำเย็นจัด (สัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง)
2. สำหรับผิวแห้ง ให้ใช้ ขมิ้น ½ ช้อนชา กะทิ 1 ช้อนโต๊ะผสมทั้งหมดให้เข้ากันนำมานวดหน้าอย่างเบามือเป็นวงกลม และพอกหน้าเว้นรอบดวงตาและริมฝีปากไว้ ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น กระชับผิวหน้าด้วยน้ำเย็นจัด (สัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง)
3. สำหรับผิวเป็นสิวง่าย ให้ใช้ ขมิ้น ½ ช้อนชา โยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกหน้าเว้นรอบดวงตาและริมฝีปากไว้ ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น กระชับผิวหน้าด้วยน้ำเย็นจัด (สัปดาห์ละ 2 ครั้ง)
4. สำหรับผิวรูขุมขนกว้าง ให้ใช้ ขมิ้น ½ ช้อนชา ไข่ขาว 1 ลูก น้ำมะนาว 1 ลูกผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกหน้าทิ้งไว้จนแห้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น กระชับผิวหน้าด้วยน้ำเย็นจัด (สัปดาห์ละ 2 ครั้ง)
5. สำหรับผิวแห้งมาก ให้ใช้ ขมิ้น ½ ช้อนชา น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นนำมานวดหน้าเบาๆ แล้วพอกทิ้งไว้ 15–30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น กระชับผิวหน้าด้วยน้ำเย็นจัด (สัปดาห์ละ 2 ครั้ง)
6. สำหรับผิวปกติ ให้ใช้น้ำหัวไชเท้า 1 ช้อนชา (แบบแช่เย็นทิ้งไว้แล้ว)ว่านหางจระเข้ปั่น 1–2 ช้อนโต๊ะ ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 5–10 แล้วล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำเย็นจัด (สัปดาห์ละ 2 ครั้ง)
การรักษาฝ้าโดยวิธีธรรมชาตินั้นคงต้องใช้เวลาสักหน่อย ถึงจะเห็นผล สำหรับท่านที่ต้องการ ผลการรักษาอย่างรวดเร็ว จะใช้วิธีการรักษาวิธีอื่นก็ได้เช่น การใช้ ผลิตภัณฑ์รักษาฝ้าบางชนิดที่มีกรด TCA (กรดไตรคลอโรอะเซติก) , AHA (กรดอัลฟาไฮดรอกซี) , BHA (กรดเบตาไฮดรอกซี )วิตามินซี, อาร์บูติน ,กรดโคจิก หรือ ไฮโดรควิโนน ซึ่งจะทำให้ฝ้าจางลงและผิวหน้าดูกระจ่างใส
นอกจากนั้นอาจใช้วิธีการรักษาด้วยวิธีการอื่นอีกหลายวิธี เช่นการรักษาด้วยเลเซอร์ การทำ IPL (Intense pulsed light) การทำ ไอออนโต (Ionto) การผลัดผิวด้วย M.D. ( Microdermabrasion)เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าในการดูแลรักษาฝ้านั้นมีหลากหลายวิธีนะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นควรเลือกใช้วิธีการที่ปลอดภัยและเหมาะสมที่สุดสำหรับเรา และควรหาวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดฝ้าจะดีกว่าเช่นการหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน ๆ หรือหากจำเป็นต้องสัมผัสแสงแดดก็ควรจะป้องกันด้วยนะคะ
